🚀 เส้นทางโปรแกรมเมอร์

Appearance

Git Deployment ​

การใช้ Git ในการจัดการเวอร์ชันของโค้ดและดึงโค้ดจาก Git repository ไปยังเซิร์ฟเวอร์โดยตรงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบายในการปรับใช้เว็บแอปพลิเคชัน โดยสามารถใช้บริการเช่น GitHub Actions, GitLab CI/CD หรือ Bitbucket Pipelines ในการจัดการกระบวนการ deploy อัตโนมัติได้

ขั้นตอนการปรับใช้เว็บแอปพลิเคชันด้วย Git Deployment ​

1. การตั้งค่า Git Repository ​

  • สร้าง Git repository: บน GitHub, GitLab หรือ Bitbucket
  • เพิ่ม remote repository: บนเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
bash
git remote add origin https://github.com/username/repository.git

2. การติดตั้ง Git บนเซิร์ฟเวอร์ ​

บนเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการปรับใช้แอปพลิเคชัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Git ถูกติดตั้งแล้ว ถ้ายังไม่ติดตั้ง ให้ใช้คำสั่งดังนี้:

bash
sudo apt-get update
sudo apt-get install git

3. การตั้งค่า SSH Key สำหรับการเชื่อมต่อกับ Git Repository ​

  • สร้าง SSH Key: บนเซิร์ฟเวอร์
bash
ssh-keygen -t rsa -b 4096 -C "your_email@example.com"
  • เพิ่ม SSH Key ไปยัง Git repository: โดยคัดลอก public key (ไฟล์ .pub) และเพิ่มไปยัง GitHub, GitLab หรือ Bitbucket ในส่วนของ SSH keys

4. การตั้งค่า Git Deployment บนเซิร์ฟเวอร์ ​

  • สร้างโฟลเดอร์สำหรับแอปพลิเคชัน: บนเซิร์ฟเวอร์
bash
mkdir -p /var/www/myapp
cd /var/www/myapp
  • ดึงโค้ดจาก Git repository:
bash
git clone git@github.com:username/repository.git .
  • ตั้งค่า post-receive hook: เพื่อทำการ pull โค้ดอัตโนมัติเมื่อมีการ push โค้ดใหม่ไปยัง repository
bash
cd /var/www/myapp.git/hooks
nano post-receive

เพิ่มสคริปต์ดังนี้:

bash
#!/bin/bash
GIT_WORK_TREE=/var/www/myapp git checkout -f

บันทึกไฟล์และให้สิทธิ์การรัน:

bash
chmod +x post-receive

5. การใช้ GitHub Actions สำหรับการ Deploy อัตโนมัติ ​

GitHub Actions ช่วยให้การตั้งค่า CI/CD เพื่อทดสอบและปรับใช้โค้ดอัตโนมัติ

  • สร้างไฟล์ workflow: ในโฟลเดอร์ .github/workflows
yaml
name: CI/CD Pipeline

on:
  push:
    branches:
      - main

jobs:
  build-and-deploy:
    runs-on: ubuntu-latest

    steps:
    - name: Checkout code
      uses: actions/checkout@v2

    - name: Set up Node.js
      uses: actions/setup-node@v2
      with:
        node-version: '14'

    - name: Install dependencies
      run: npm install

    - name: Build project
      run: npm run build

    - name: Deploy to Server
      env:
        SSH_PRIVATE_KEY: ${{ secrets.SSH_PRIVATE_KEY }}
        SERVER: your_server_ip
        USER: your_server_user
      run: |
        echo "$SSH_PRIVATE_KEY" | tr -d '\r' | ssh-add - > /dev/null
        ssh -o StrictHostKeyChecking=no $USER@$SERVER "cd /var/www/myapp && git pull origin main && npm install && npm run build"
  • ตั้งค่า Secrets ใน GitHub Repository: เช่น SSH_PRIVATE_KEY เพื่อให้ GitHub Actions สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

6. การใช้ GitLab CI/CD สำหรับการ Deploy อัตโนมัติ ​

GitLab CI/CD ช่วยในการตั้งค่า pipeline สำหรับการปรับใช้โปรเจค

  • สร้างไฟล์ .gitlab-ci.yml: ใน root directory ของโปรเจค
yaml
stages:
  - deploy

deploy:
  stage: deploy
  script:
    - apt-get update -qq && apt-get install -qqy openssh-client
    - eval $(ssh-agent -s)
    - echo "$SSH_PRIVATE_KEY" | tr -d '\r' | ssh-add -
    - mkdir -p ~/.ssh
    - ssh-keyscan your_server_ip >> ~/.ssh/known_hosts
    - ssh $USER@$SERVER "cd /var/www/myapp && git pull origin main && npm install && npm run build"
  only:
    - main
  • ตั้งค่า Variables ใน GitLab Repository: เช่น SSH_PRIVATE_KEY เพื่อให้ GitLab CI/CD สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

7. การใช้ Bitbucket Pipelines สำหรับการ Deploy อัตโนมัติ ​

Bitbucket Pipelines ช่วยในการตั้งค่า CI/CD สำหรับการปรับใช้โปรเจค

  • สร้างไฟล์ bitbucket-pipelines.yml: ใน root directory ของโปรเจค
yaml
pipelines:
  default:
    - step:
        name: Deploy to Server
        caches:
          - node
        script:
          - apt-get update && apt-get install -y openssh-client
          - echo "$SSH_PRIVATE_KEY" > ~/.ssh/id_rsa
          - chmod 600 ~/.ssh/id_rsa
          - ssh-keyscan your_server_ip >> ~/.ssh/known_hosts
          - ssh $USER@$SERVER "cd /var/www/myapp && git pull origin main && npm install && npm run build"
        services:
          - docker
  • ตั้งค่า Environment Variables ใน Bitbucket Repository: เช่น SSH_PRIVATE_KEY เพื่อให้ Bitbucket Pipelines สามารถเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์

สรุป ​

การใช้ Git ในการจัดการเวอร์ชันของโค้ดและดึงโค้ดจาก Git repository ไปยังเซิร์ฟเวอร์โดยตรงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและสะดวกสบาย โดยสามารถใช้บริการเช่น GitHub Actions, GitLab CI/CD หรือ Bitbucket Pipelines ในการจัดการกระบวนการ deploy อัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

แนะนำบทความ ​

Deploy Node.js ด้วย Azure App Service Plan, Azure Container Registry และ GitHub Action